นโยบายการกำกับดูแลกิจการ
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมเสมอมา บริษัทยึดมั่นที่จะรักษามาตรฐานในการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณต่อการให้บริการอย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม มีการเปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอ
คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้นทุกราย (ทั้งผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล และนักลงทุนสถาบัน) โดยส่งเสริมให้มีการใช้สิทธิของตน เช่น 1) สิทธิในการได้รับใบหุ้นและสิทธิในการซื้อ รับซื้อคืนโดยบริษัทขายหรือโอนหุ้น 2) สิทธิในการมีส่วนแบ่งในผลกำไร/เงินปันผลของกิจการ 3) สิทธิในการพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาเป็นประจำทุกปี 4) สิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้ง และถอดถอนกรรมการ 5) สิทธิในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสอบบัญชี และ 6) สิทธิในเรื่องการตัดสินใจอื่นๆ ที่มีผลกระทบสำคัญต่อบริษัท เช่น การจัดสรรเงินปันผล การกำหนด หรือการแก้ไขข้อบังคับและหนังสือบริคณห์สนธิ การลดทุนหรือเพิ่มทุน และการอนุมัติรายการพิเศษ เป็นต้น
ก่อนการประชุม
บริษัทได้จัดส่งหนังสือเชิญประชุม และเอกสารประกอบรวมถึงหนังสือมอบฉันทะทั้ง 3 แบบ คือแบบทั่วไป ซึ่งเป็นแบบที่ง่ายและไม่ซับซ้อน (แบบ ก) แบบที่กำหนดรายการต่างๆที่จะมอบฉันทะที่ละเอียดชัดเจนตายตัว (แบบ ข) และแบบที่ใช้เฉพาะกรณีผู้ถือหุ้นเป็นผู้ลงทุนต่างประเทศและแต่งตั้งให้คัสโตเดียน (Custodian) ในประเทศไทยเป็นผู้รับฝากและดูแลหุ้น (แบบ ค) รวมทั้งเอกสารที่ต้องใช้ในการมอบฉันทะ และวิธีการใช้ให้ทราบโดยคำนึงถึงความถูกต้อง เพียงพอ และชัดเจนของข้อมูล แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้ามากกว่า 21 วัน รวมทั้งบริษัทได้มีการประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทล่วงหน้า 30 วันก่อนวันประชุม และติดประกาศหนังสือบอกกล่าวเรียกประชุมที่สำนักงานใหญ่ รวมถึงโฆษณาคำบอกกล่าวเชิญประชุมในหนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 วัน ก่อนวันประชุมอย่างน้อย 3 วัน
วันประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัทได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-AGM) เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 โดยใช้สถานที่ถ่ายทอดสด (Live) ณ ห้องประชุมบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 1168/55 ชั้น 20 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยบริษัทได้ปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เช่น การจำกัดจำนวนผู้ที่อยู่ในสถานที่ถ่ายทอดสดไม่เกิน 50 คน การเว้นระยะห่างทางสังคม การจัดเตรียมแอลกอฮอล์เจล เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดให้ผู้ถือหุ้นสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมในวันประชุมอีก 1 วันจนกระทั่งการประชุมเสร็จสิ้นในวันดังกล่าว
ก่อนเริ่มการประชุมผู้ถือหุ้น ประธานที่ประชุมแนะนำคณะกรรมการ คณะผู้บริหาร ผู้สอบบัญชีของบริษัทและที่ปรึกษาทางกฎหมาย และเลขานุการที่ประชุมชี้แจงกฎ กติกาทั้งหมด รวมถึงวิธีการนับคะแนนเสียงในแต่ละวาระ ประธานฯ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมถึงคำถามที่มีในแต่ละวาระการประชุม หลังจากนั้น ประธานฯ และผู้บริหารจะตอบข้อซักถามอย่างตรงประเด็น จากนั้นจึงให้ที่ประชุมออกเสียงลงมติในวาระนั้นๆ ตามลำดับ โดยจัดให้มีผู้ตรวจสอบการนับคะแนนเสียง และจะไม่เพิ่มวาระการประชุมโดยไม่แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า เว้นแต่ที่ประชุมจะมีมติให้เปลี่ยนลำดับวาระด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่เข้าประชุม
สำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ของบริษัท การประชุมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท โดยเรียงตามวาระที่ระบุไว้ในหนังสือนัดประชุม และไม่มีการเพิ่มวาระการประชุม หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญโดยไม่แจ้งผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า ในการประชุมทุกครั้งจะมีการจดรายงานการประชุมและสรุปด้วยการลงมติพร้อมกับนับคะแนนเสียง ซึ่งบริษัทใช้โปรแกรมการจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรฐานของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เพื่อประสิทธิภาพความถูกต้องและความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นสามารถเห็นคะแนนในแต่ละวาระได้ทันที เมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้น
สำหรับผลการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทได้แจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นผ่านช่องทางการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยทันทีภายในวันประชุม และจัดทำรายงานการประชุมที่มีสาระสำคัญครบถ้วน โดยมีการบันทึกคำถามและความคิดเห็นต่างๆ และมติทั้งหมดของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทได้เผยแพร่รายงานดังกล่าวในเว็บไซต์ของบริษัท และนำส่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 14 วันนับจากวันประชุมผู้ถือหุ้น และจัดเก็บรายงานการประชุมไว้ที่สำนักงานบริษัท
คณะกรรมการบริษัทได้ตระหนักถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้นทุกราย (ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล และนักลงทุนสถาบัน) ในการประชุมแต่ละครั้งจะกำกับดูแลให้ผู้ถือหุ้นทุกรายได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้ถือหุ้นทุกรายจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวันประชุม และวาระการประชุมเป็นการล่วงหน้า โดยบริษัทจะดำเนินการเรียกประชุม จัดส่งเอกสารและแจ้งวาระการประชุมเป็นการล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด และเผยแพร่ข้อมูลประกอบวาระการประชุมผู้ถือหุ้นล่วงหน้า 30 วัน ก่อนวันประชุม ไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท (www.ifscapthai.com) ภายใต้หัวข้อ “นักลงทุนสัมพันธ์” และจัดส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นพร้อมเอกสารประกอบให้แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 21 วัน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับข้อมูลที่เพียงพอ และมีโอกาสได้ศึกษาวาระการประชุมล่วงหน้า และในแต่ละปีบริษัทเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นสามารถเสนอวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการบริษัทเป็นการล่วงหน้าภายในระยะเวลาที่บริษัทกำหนด นอกจากนี้ ในการประชุมจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิอย่างเท่าเทียมกันในการตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท และแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ในแต่ละวาระ รวมทั้งบันทึกรายงานการประชุมถูกต้องครบถ้วนเพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบได้
คณะกรรมการบริษัทกำหนดให้มีการใช้บัตรลงคะแนนเสียงในวาระต่างๆ ผู้ถือหุ้นมีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนแบบหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียงโดยเท่าเทียมกัน และการเลือกตั้งกรรมการ บริษัทจะจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการเป็นรายบุคคล เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งในภายหลัง
คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญในการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้ถือหุ้นสามารถแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ ให้กับบริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารกับนักลงทุนสัมพันธ์ และในการประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทในแต่ละครั้ง รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสามารถมอบอำนาจให้กรรมการอิสระอย่างน้อย 1 ท่าน หรือผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งทางบริษัทจะปฏิบัติต่อผู้รับมอบฉันทะเสมือนเป็นผู้ถือหุ้นท่านหนึ่ง
คณะกรรมการบริษัทมีนโยบายปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัท กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน การได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญของบริษัท การเปิดเผยข้อมูลการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และการใช้ข้อมูลภายในเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น ตลอดจนกำหนดให้มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันการทำรายการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คณะกรรมการบริษัทมีนโยบายห้ามกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน นำข้อมูลภายในของบริษัทซึ่งยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนไปเปิดเผยหรือใช้ซื้อขายหลักทรัพย์ (Insider Trading) รวมทั้งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
บริษัทให้ความสำคัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ตามสิทธิที่ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม รวมถึงไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียเหล่านี้ด้วย บริษัทได้ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทได้รับการต่ออายุการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption (CAC)) เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะครบกำหนดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะนำนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงกระบวนการในการประเมินความเสี่ยงจากการทุจริตคอร์รัปชันมากำหนดเป็นกฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานได้ยึดถือปฏิบัติสืบไป โดยจัดให้มีการอบรมเพื่อให้เกิดความรู้เกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ นอกจากนี้ บริษัทยังได้กำหนดนโยบายการป้องกันการทุจริตและขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการควบคุมและตรวจสอบ รวมทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตภายในบริษัท และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเสริมสร้างองค์กรให้มีแนวปฏิบัติในการควบคุมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และดำเนินการตรวจสอบการกระทำทุจริต โดยจะไม่ยอมรับการปฏิบัติใด ๆ ที่ทุจริต ไม่ซื่อสัตย์ หรือการกระทำใด ๆ ที่ฉ้อโกงอย่างสิ้นเชิงของผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกบริษัท (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ “การกำกับดูแลกิจการที่ดี” หรือ “นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน” บนเว็บไซต์ของบริษัท) โดยบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียต่อองค์กร สามารถสรุปได้ดังนี้
ผู้ถือหุ้น
บริษัทปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส สนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นได้รับข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอและเหมาะสม โดยเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญทั้งข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงินต่อผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้อง ครบถ้วน เพียงพอและทันเวลา ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์บริษัท
ลูกค้า
บริษัทให้บริการที่มีคุณภาพรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเก็บรักษาความลับของลูกค้า โดยบริษัทได้มีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติต่อลูกค้า และเปิดเผยไว้ให้เป็นที่ทราบในจรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท
คู่ค้าและ/หรือเจ้าหนี้
บริษัทปฏิบัติต่อคู่ค้าและเจ้าหนี้อย่างเสมอภาพและเป็นธรรม โปร่งใส เป็นไปตามสัญญาหรือเงื่อนไขที่ตกลงกัน โดยบริษัทได้มีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติต่อคู่ค้าและ/หรือเจ้าหนี้ และเปิดเผยไว้ให้เป็นที่ทราบในจรรยาบรรณธุรกิจของบริษัทซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมและโปร่งใส ทั้งนี้ ในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีข้อพิพาทหรือข้อร้องเรียนใดๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับคู่ค้า/เจ้าหนี้ แต่อย่างใด
พนักงาน
บริษัทปฏิบัติกับพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน มีนโยบายการให้ผลตอบแทนและการแต่งตั้งที่เป็นธรรมและเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและผลสำเร็จขององค์กรในแต่ละปี และเทียบเคียงได้กับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน บริษัทมุ่งเน้นให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีความสุขโดยการปรับปรุงดูแลสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการฝึกอบรมและจัดสัมมนาให้ความรู้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งได้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับพนักงานอีกด้วย บริษัทได้มอบสวัสดิการทั้งด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจและจัดกิจกรรมนันทนาการต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งในปี 2564 ไม่มีพนักงานเกิดอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงาน
คู่แข่ง
บริษัทประพฤติตามกติกาการแข่งขันที่ดี หลีกเลี่ยงวิธีการไม่สุจริตหรือไม่เหมาะสม และ ไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่ง โดยบริษัทได้มีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติต่อคู่แข่ง และเปิดเผยไว้ให้เป็นที่ทราบในจรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ ในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีข้อพิพาทหรือข้อร้องเรียนใดๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับคู่แข่งแต่อย่างใด
องค์กรกำกับดูแลและหน่วยงานภาครัฐ
บริษัทปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ ข้อกำหนด และกฎระเบียบต่างๆ ที่กำหนดโดยองค์กรที่กำกับดูแลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น รวมทั้งให้ความร่วมมือและประสานงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมาตรการการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น
สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
บริษัทสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเสมอมาเพื่อให้ชุมชนมีคุณภาพที่ดีขึ้น ทั้งที่ดำเนินการเองและร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชน
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณธุรกิจเพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนในองค์กรยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเที่ยงธรรม โดยบริษัทจะกำกับและติดตามเพื่อให้มีการปฏิบัติตามแนวทางของจรรยาบรรณธุรกิจดังกล่าวอย่างจริงจัง รวมถึงการกำหนดบทลงโทษทางวินัยไว้ด้วย บริษัทมีนโยบายและขั้นตอนการแจ้งการกระทำผิดและให้ความคุ้มครองผู้ร้องเรียน (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน” บนเว็บไซต์ของบริษัท) ซึ่งได้จัดให้มีช่องทางในการยื่นข้อร้องเรียนหรือรายงานถึงข้อกังวลใจเกี่ยวกับพฤติกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดการกระทำที่ไม่เหมาะสมผิดจริยธรรม หรืออาจก่อให้เกิดการฝ่าฝืนกฎหมาย ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมทางการเงินหรือฉ้อโกง หรือสามารถรายงาน เมื่อพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือการกระทำผิดต่อนโยบายบริษัท โดยทุกข้อร้องเรียนสามารถยื่นได้ด้วยตนเองโดยตรงถึงประธานกรรมการตรวจสอบผ่านช่องทางอีเมล์: whistleblowing@ifscapthai.com หรือทางไปรษณีย์ และข้อมูลจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ
คณะกรรมการบริษัทดูแลให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับบริษัทต่อสาธารณะ ได้แก่ ข้อมูล ทางการเงิน รายงานทางการเงิน และข้อมูลที่มิใช่ทางการเงิน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และทันเวลา เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลท.”) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) โดยการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ ตลท. รายงานประจำปี/แบบแสดงรายงานข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) บนเว็บไซต์ของบริษัท (www.ifscapthai.com) การจัดส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นผ่านทางไปรษณีย์ เป็นต้น
ในส่วนของคุณภาพของรายงานทางการเงิน บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด (“ดีลอยท์”) ในการเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท ซึ่งดีลอยท์เป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. มีความเป็นอิสระ และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่แสดงในรายงานทางการเงินมีความถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป อีกทั้งยังกำหนดให้คณะกรรมการตรวจสอบ เป็นผู้ดูแลพิจารณากลั่นกรองรายงานทางการเงิน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเปิดเผยรายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คำอธิบายและวิเคราะห์ งบการเงิน พร้อมทั้งรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทต่อรายงานทางการเงิน รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย จำนวนครั้งที่กรรมการเข้าร่วมประชุม รวมทั้งค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารไว้ในรายงานประจำปี
นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูลที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และโปร่งใส และทั่วถึงทั้งรายงานข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทั่วไป จึงได้จัดตั้งฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ฯ โดยมอบหมายให้ นายกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญของบริษัท และเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียอื่น เช่น นักลงทุนที่เป็นสถาบัน นักวิเคราะห์ทั่วไป เป็นต้น ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วไปสามารถติดต่อขอทราบข้อมูลของบริษัทได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-285-6326-32 หรือที่เว็บไซต์ www.ifscapthai.com
คณะกรรมการบริษัทได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้นให้มีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัท ซึ่งรวมถึงการสั่งการ อนุมัติ ตลอดจนการกำกับดูแลกิจการ และกลยุทธ์องค์กร คณะกรรมการบริษัทยังมีหน้าที่กำกับดูแลคณะผู้บริหารและมีความรับผิดชอบสูงสุดในการดูแลกลยุทธ์ความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงิน ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลกิจการ และมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ผู้ถือหุ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวม
ในปี 2564 บริษัทได้ปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies) ประจำปี 2564 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors Association) อยู่ในระดับ “ดีมาก” นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการประเมินคุณภาพการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในระดับ “ดีเยี่ยม” โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association)
องค์ประกอบของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์และจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมทั้งมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นในการกำหนดวิสัยทัศน์และภารกิจ กลยุทธ์ เป้าหมายทางการเงิน ความเสี่ยง แผนงาน และงบประมาณของบริษัท ตลอดจนกำกับดูแลฝ่ายจัดการให้ดำเนินการเป็นไปตามแผนงานและนโยบายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
บริษัทมีกรรมการจำนวนทั้งสิ้น 6 ท่าน ประกอบด้วยกรรมการที่เป็นสุภาพสตรีจำนวน 2 ท่าน และสุภาพบุรุษจำนวน 4 ท่าน การเลือกตั้งกรรมการบริษัทเป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสมกับธุรกิจของบริษัท โดยมีองค์ประกอบสอดคล้องกับเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนจัดให้มีองค์ประกอบที่มีความหลากหลาย ได้แก่ อายุ เพศ ความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ และคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกกรรมการ
คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหามีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกกรรมการ โดยพิจารณาจากลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัท จึงได้กำหนดคุณสมบัติของกรรมการที่ต้องการสรรหา ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยพิจารณาทักษะที่จำเป็นที่ยังขาดอยู่ และมีนโยบายความหลากหลายในโครงสร้างของคณะกรรมการ (Board Diversity) ทั้งทางด้านทักษะวิชาชีพ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ความรู้ความสามารถ เพศ รวมถึงประสบการณ์การทำงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อกำหนดหากรรมการที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท บริษัทได้มีการจัดทำตารางองค์ประกอบความรู้ความชำนาญของกรรมการ (Board Skills Matrix) สรุปได้ดังแผนภูมิแท่งด้านล่าง เพื่อใช้ในการสอบทานโครงสร้างของคณะกรรมการ รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาสรรหากรรมการ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คณะกรรมการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สอดคล้องกับทิศทางการดาเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) รวมทั้งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน กฎหมายอื่น และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
Board skill matrix

*ประเมินจากคุณสมบัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ทักษะวิชาชีพ การอบรม/สัมมนา
ปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการจำนวน 6 ท่าน ซึ่งมีจำนวนที่เหมาะสมกับสภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทและกรรมการทุกท่านล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน คณะกรรมการบริษัทในปัจจุบันจึงประกอบด้วยผู้มีคุณวุฒิและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจากหลากหลายอาชีพ และครอบคลุมในทุกด้านอย่างเหมาะสมครบถ้วน
ภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์
คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัท ตลอดจนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ชอบด้วยกฎหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท โดยสรุปอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบที่สำคัญได้ดังนี้
4. คณะกรรมการมอบอำนาจให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนหรือบุคคลอื่นใดปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการได้โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการ หรืออาจมอบอำนาจเพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีอำนาจตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรและภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการเห็นสมควร ซึ่งคณะกรรมการอาจยกเลิก เพิกถอนเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ หรืออำนาจนั้นๆ ได้เมื่อเห็นสมควร
นอกจากนี้ คณะกรรมการอาจมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่างๆ โดยมีรายละเอียดการมอบอำนาจตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร
ทั้งนี้ การมอบอำนาจนั้นต้องไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจที่ทำให้คณะกรรมการบริหาร หรือผู้รับมอบอำนาจสามารถพิจารณา และอนุมัติรายการที่คณะกรรมการบริหาร หรือผู้รับมอบอำนาจหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือ มีส่วนได้เสีย หรือมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อื่นใดกับบริษัท หรือบริษัทย่อย ยกเว้นเป็นการอนุมัติรายการที่เป็นไปตามนโยบาย และหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพิจารณาและอนุมัติไว้แล้ว
6. พิจารณาโครงสร้างการบริหารงาน แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะกรรมการอื่นตามความเหมาะสม
7. ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงาน และงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
8. กรรมการจะต้องไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นกรรมการของบริษัทเอกชน หรือบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์ผู้อื่น เว้นแต่จะได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบก่อนที่จะมีมติแต่งตั้ง

9. กรรมการต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า หากมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยตรง หรือโดยอ้อมในสัญญาที่บริษัททำขึ้น หรือถือหุ้น หรือหลักทรัพย์อื่นเพิ่มขึ้น หรือลดลงในบริษัท หรือบริษัทในเครือ
คณะกรรมการบริษัทจัดให้มีแผนธุรกิจและงบประมาณ (Corporate Plan) ที่สะท้อนถึงแนวคิดและวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัท โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ เพื่อให้ฝ่ายบริหารนำไปปฏิบัติและประเมินผล รวมทั้งรายงานการวิเคราะห์การดำเนินงานโดยฝ่ายบริหารต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบความคืบหน้า เพื่อให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
บริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้แนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยบริษัทไม่มีนโยบายสนับสนุนให้มีการทำรายการกับบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน หรือการทำรายการซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ ทั้งนี้ หากเกิดรายการดังกล่าวคณะกรรมการตรวจสอบจะพิจารณารายการดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยจะรายงานและนำเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ บริษัทจะพิจารณารายการดังกล่าวเสมือนการทำรายการปกติการค้าทั่วไป
คณะกรรมการบริษัทมีความรับผิดชอบในกำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงการนำไปปฏิบัติใช้ เพื่อให้บริษัทดำเนินการให้ครบถ้วน อาทิเช่น การแสดงข้อมูลที่เกี่ยวกับผลประกอบการด้านต่างๆ เช่น ข้อมูลทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง การลงทุน สภาพคล่อง ข้อมูลด้านสินทรัพย์และหนี้สิน การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎและระเบียบต่างๆ ตลอดจนการทบทวนและติดตามผลให้มีการปฏิบัติตาม โดยคณะกรรมการบริษัทควรพิจารณารายงานและข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นด้วยความรอบคอบ และระมัดระวังเพื่อให้ทราบถึงสัญญาณเตือนในด้านต่างๆ เช่น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในด้านต่างๆ การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท รวมทั้งจัดให้มีการประเมิน Board Self-Assessment เพื่อหาแนวทางเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงให้ดีต่อไป
คณะกรรมการบริษัทได้ระมัดระวังในการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับบริษัท กรรมการและผู้บริหารในการเข้าทำรายการระหว่างกัน กำหนดมาตรการและขั้นตอนในการอนุมัติให้เข้าทำรายการระหว่างกัน และนโยบายหรือแนวโน้มการทำรายการระหว่างกันในอนาคต ให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลรายการที่เกี่ยวโยงกันไว้ใน งบการเงิน และแบบ 56-1 One Report เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบได้
บริษัทได้จัดทำจรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานยึดถือปฏิบัติ ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น การคำนึงถึงสิทธิของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ การหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่ขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบริษัท การหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลภายในเพื่อเอื้อประโยชน์ ส่วนตน การเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องและทันเวลา ความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม
คณะกรรมการบริษัทจัดให้มีการประเมินตนเองเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้กรรมการพิจารณาผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ โดยมีการรายงานผลการประเมินต่อที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ การประเมินการปฏิบัติงานดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความเหมาะสมของโครงสร้างคณะกรรมการ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยคณะกรรมการจะวิเคราะห์ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ ข้อควรสังเกตต่างๆ เพื่อนำมาพิจารณาใช้ปฏิบัติให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจ
สำหรับการประเมินตนเองของคณะกรรมการประจำปี 2564 บริษัทได้จัดให้มีการประเมินตนเองของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย ซึ่งเป็นการประเมินตนเองของคณะกรรมการทั้งคณะ (Board Self-Assessment) และรายบุคคล โดยผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการประจำปี 2564 พบว่า กรรมการส่วนใหญ่ให้คะแนนในเชิงประสิทธิภาพที่ระดับ “ดี-ดีมาก” ทั้งนี้ คณะกรรมการยังได้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและหาแนวทางเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงให้ดีต่อไป
การประชุมของกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทจัดให้มีการประชุมอย่างสม่ำเสมอ เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับของบริษัท รวมทั้งหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อรับทราบและร่วมกันตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยคณะกรรมการบริษัทมีการประชุมอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง และมีการกำหนดตารางการประชุมล่วงหน้าเป็นประจำทุกปี และมีการประชุมเพิ่มเติมตามความจำเป็น มีการส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อมระเบียบวาระการประชุมที่ชัดเจนและเอกสารประกอบการประชุมเพียงพอจัดส่งให้กรรมการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เว้นแต่ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท เพื่อให้คณะกรรมการได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม ในการประชุม คณะกรรมการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงได้มีส่วนร่วมในการเข้าร่วมประชุม เพื่อตอบข้อซักถามในประเด็นที่มีข้อสงสัย และได้มีการกำหนดองค์ประชุมขั้นต่ำ ณ ขณะที่คณะกรรมการจะลงมติในที่ประชุมคณะกรรมการว่า ต้องมีกรรมการอยู่ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดในส่วนของรายงานการประชุม จะมีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และจะจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากที่ประชุมแล้ว เพื่อให้กรรมการหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ในปี 2564 กรรมการบริษัทเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย และการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 สรุปได้ดังนี้
กรรมการ (ไม่รวมประธาน
เจ้าหน้าที่บริหาร) |
คณะกรรมการบริษัท
(6 ท่าน) |
คณะกรรมการตรวจสอบ
(3 ท่าน) |
คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา
(3 ท่าน) |
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
(3 ท่าน) |
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ประจำปี 2563 |
---|---|---|---|---|---|
จำนวนการประชุมทั้งหมด |
4
|
4
|
1
|
4
|
1
|
1. นายแรนดี้ ซิม เชง เหลียง |
4/4
|
1/1
|
1/1
|
||
2. นายสิงหะ นิกรพันธุ์ * |
4/4
|
4/4
|
1/1
|
4/4
|
1/1
|
3. นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน* |
4/4
|
4/4
|
1/1
|
1/1
|
|
4. นายชยุตม์ วิชชุประภา* |
4/4
|
4/4
|
4/4
|
1/1
|
|
5. นางสาวฉวน หยี่ เฉียน |
4/4
|
4/4
|
1/1
|
||
6. นายตัน เล เยน |
4/4
|
2/2
|
1/1
|
หมายเหตุ
*กรรมการอิสระ
** นายตัน เล เยน กรรมการ กรรมการบริหารความเสี่ยง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้รับอนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารความเสี่ยง จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564
บริษัทได้กำหนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการไว้อย่างชัดเจนและโปร่งใส โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับการจ่ายค่าตอบแทนกรรมการของบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ และในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตลอดจนผลการดำเนินงานของบริษัท อีกทั้งยังคำนึงถึงประสบการณ์ ภาระหน้าที่ ขอบเขตของบทบาทและความรับผิดชอบ เพื่อที่จะจูงใจและรักษากรรมการที่มีคุณสมบัติที่ต้องการ และได้ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนค่าตอบแทนผู้บริหารเป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหาเสนอก่อนที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ โดยพิจารณาตามบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ และผลการปฏิบัติงานและความทุ่มเทของผู้บริหารแต่ละท่าน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงินแล้ว บริษัทยังไม่มีการให้สิทธิประโยชน์อื่นใดแก่กรรมการ
ในปี 2564 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 มีมติอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการและโบนัสกรรมการ ดังนี้
กรรมการ
|
ปี 2564
|
||
---|---|---|---|
เบี้ยประชุม (บาท)
|
เบี้ยกรรมการ รายปี (บาท)
|
โบนัส (บาท)
|
|
1. นายแรนดี้ ซิม เชง เหลียง |
145,000
|
130,000
|
714,000
|
2. นายสิงหะ นิกรพันธุ์ * |
280,000
|
220,000
|
357,000
|
3. นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน* |
175,000
|
150,000
|
357,000
|
4. นายชยุตม์ วิชชุประภา* |
240,000
|
130,000
|
357,000
|
5. นางสาวฉวน หยี่ เฉียน |
180,000
|
100,000
|
357,000
|
6. นายตัน เล เยน** |
-
|
-
|
-
|
รวม |
1,020,000
|
730,000
|
2,142,000
|
หมายเหตุ ไม่มีค่าตอบแทนอื่น นอกจากค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงินข้างต้นนี้
* กรรมการอิสระ
** กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบริหารความเสี่ยง
ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงานอย่างมีนัยสำคัญและไม่มีข้อพิพาททางด้านแรงงานใด ๆ
ผลตอบแทนและลักษณะผลตอบแทนที่ให้กับพนักงาน (ไม่รวมกรรมการ และผู้บริหาร)
ค่าตอบแทน
|
2562
|
2563
|
2564
|
|||
---|---|---|---|---|---|---|
|
จำนวนราย
|
จำนวนเงินรวม (บาท)
|
จำนวนราย
|
จำนวนเงินรวม (บาท)
|
จำนวนราย
|
จำนวนเงินรวม (บาท)
|
เงินเดือนและโบนัส |
9
|
35,232,824
|
9
|
29,710,343
|
9
|
56,617,961
|
รวม |
9
|
35,232,824
|
9
|
29,710,343
|
9
|
68,678,216
|
ค่าตอบแทนอื่นๆ ที่เป็นตัวเงิน
บริษัทได้เข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับกองทุน ซึ่งจดทะเบียนแล้วตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยพนักงานจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ 5 - 15 ของค่าจ้าง และบริษัทจ่ายสมทบอีกส่วนหนึ่งตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน
บริษัทจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สอบบัญชีของบริษัท คือ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด นอกจากนี้บริษัทมีบริการอื่นๆ* อาทิ เช่น ค่าปรึกษาภาษีอากร ค่าใช้จ่ายในการเสนอรายงานต่อบริษัทในกลุ่ม และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้นจริง ดังนี้
|
ปี 2562 (บาท)
|
ปี 2563 (บาท)
|
ปี 2564 (บาท)
|
---|---|---|---|
ค่าตอบแทนการสอบบัญชี |
2,015,000
|
2,201,000
|
2,201,000
|
ค่าบริการอื่นๆ |
570,043
|
263,981
|
729,041
|
รวม
|
2,585,043
|
2,464,981
|
2,930,041
|
การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
บริษัทมีข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการควบคุมและการใช้ข้อมูลภายในอย่างรัดกุม โดยเฉพาะข้อมูลแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทก่อนที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณชน บริษัทมีนโยบายและวิธีการดูแลกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานในการนำข้อมูลภายในของบริษัทไปใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตน ดังนี้
- ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว ใช้ข้อมูลภายในเพื่อทำการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ของบริษัท ก่อนที่ข้อมูลนั้นจะถูกเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบโดยทั่วถึงกัน โดยเฉพาะในช่วง 30 วันก่อนที่งบการเงินของบริษัทจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน และภายหลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้วเป็นระยะเวลา 7 วัน
- ให้ความรู้แก่กรรมการ และผู้บริหาร ที่มีหน้าที่ต้องรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เกี่ยวกับการรายงานการถือหลักทรัพย์ของบริษัทต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรา 59 และบทกำหนดโทษตามมาตรา 275 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) รวมทั้งการรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรา 246 และบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 298 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) หากมีการกระทำการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะดำเนินการทางวินัยเพื่อพิจารณาลงโทษตามสมควรแก่กรณี เช่น ตักเตือนเป็นหนังสือ ลดค่าจ้าง พักงาน เลิกจ้าง เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์
บริษัทกำหนดให้คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารระดับสูง และผู้ดำรงตำแหน่งสูงกว่าหรือเทียบเท่าผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัท จะต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยในรอบปีที่ผ่านมากรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงได้รายงานการถือครองหลักทรัพย์ของตน ดังนี้
ชื่อ - สกุล
|
ตำแหน่ง
|
จำนวนการถือหุ้น IFS ของกรรมการและผู้บริหารระดับสูง
|
|||
---|---|---|---|---|---|
การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
|
(%)
|
การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
|
จำนวนหุ้น เพิ่ม (ลด) ระหว่างปี
|
||
กรรมการ | |||||
นายแรนดี้ ซิม เชง เหลียง |
กรรมการ ประธานกรรมการ และกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ |
กรรมการ กรรมการอิสระ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา และกรรมการบริหารความเสี่ยง
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน |
กรรมการ กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นายชยุตม์ วิชชุประภา |
กรรมการ กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการบริหารความเสี่ยง
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นางสาวฉวน หยี่ เฉียน |
กรรมการ และประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นายตัน เล เยน |
กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการบริหารความเสี่ยง
|
210,000
|
0.04
|
210,000
|
-
|
ผู้บริหารระดับสูง | |||||
นายตัน เล เยน |
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
|
210,000
|
0.04
|
210,000
|
-
|
นายกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ |
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงินและบัญชี
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นายปากน้ำ สาระกุล |
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
|
105,005
|
0.02
|
105,005
|
-
|
นางสาวขวัญใจ แซ่ไหล |
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายปฏิบัติการ
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นางสุธิดา ศุภนุกูลสมัย |
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารความเสี่ยง
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นางเพ็ญศรี เพชรทอง |
หัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชี
|
-
|
-
|
-
|
-
|
นายกำพล ดั่นเจริญ |
หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
|
1,050
|
0.0002
|
1,050
|
-
|
นางณัฐสรัญ พุ่มพิเชฏฐ์ |
หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ทีม 1
|
3,005
|
0.0006
|
3,005
|
-
|
นายมีชัย วัชรโสตถิกุล |
หัวหน้า ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ทีม 2
|
-
|
-
|
-
|
-
|
บุคลากร
ในปี 2564 บริษัทมีผู้บริหารและพนักงานทั้งหมด 87 คน แบ่งตามสายงานต่างๆ ดังนี้
ประเภท
|
จำนวนพนักงาน
|
---|---|
ผู้บริหาร |
9
|
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ |
15
|
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ |
11
|
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ |
2
|
ฝ่ายอำนวยการสินเชื่อลูกหนี้การค้า |
5
|
ฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ |
27
|
ฝ่ายการเงินบัญชี |
3
|
ฝ่ายกฎหมาย |
2
|
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ เลขานุการ และกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ |
1
|
ฝ่ายพัฒนาสินเชื่อ / ฝ่ายบุคคลและธุรการ |
11
|
เลขานุการผู้บริหาร |
1
|
รวม
|
87
|
ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงานอย่างมีนัยสำคัญและไม่มีข้อพิพาททางด้านแรงงานใด ๆ
ผลตอบแทนและลักษณะผลตอบแทนที่ให้กับพนักงาน (ไม่รวมกรรมการ และผู้บริหาร)
ลักษณะผลตอบแทน
|
ปี 2562 (บาท)
|
ปี 2563 (บาท)
|
ปี 2564 (บาท)
|
---|---|---|---|
เงินเดือน / ค่าจ้าง โบนัส |
56,742,023
|
53,081,143
|
56,617,961
|
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน |
13,436,301
|
12,154,137
|
12,060,255
|
รวม
|
70,178,324
|
65,235,280
|
68,678,216
|
นโยบายในการพัฒนาบุคลากร
บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการพัฒนาความรู้ และความสามารถของพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน คุณภาพของการให้บริการ โดยได้จัดให้มีการฝึกอบรม การสัมมนาโดยบุคคลทั้งจากภายในและภายนอกที่จำเป็นต่อพนักงานโดยรวมและรายบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการทำงาน รวมทั้งมีนโยบายในการให้ผลตอบแทนกับพนักงานในอัตราที่เหมาะสมเพื่อจูงใจและรักษาให้พนักงานทำงานกับบริษัทในระยะยาว และนอกจากนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์พนักงานเพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีภายในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ
แผนการสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning)
คณะกรรมการบริษัทตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับแผนการสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning) ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง ซึ่งคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา จะทบทวนแผนดังกล่าวเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเตรียมแผนในการสรรหาบุคลากรไว้รองรับในกรณีที่มีตำแหน่งว่างลง เกษียณอายุ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้