สารจากประธานกรรมการ
เรียน ท่านผู้ถือหุ้นที่เคารพ
ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่ายังมีการเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย และแรงกดดันต่างๆ ทั้งในเรื่องของการปรับราคาพลังงานที่สูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่องสืบเนื่องจากมรสุมโควิด 19 บริษัทยังสามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่งในปี 2565
บริษัทมีปริมาณการให้สินเชื่อแฟคเตอริ่งเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 32,206 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับ ปริมาณสินเชื่อประเภทอื่น (สินเชื่อลีสซิ่ง สินเชื่อเช่าซื้อ และเงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 25 ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 421 ล้านบาทในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 7 ล้านบาท เนื่องจากมีการลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาทแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีจำนวน 156.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปีจำนวน 161.10 ล้านบาท ในปี 2565