รวมเรื่องต้องรู้ในการออกใบเพิ่มหนี้เพื่อใช้ในธุรกิจ | IFS Capital (Thailand)
31 Dec 2023
Factoring Knowledge

รวมเรื่องต้องรู้ในการออกใบเพิ่มหนี้เพื่อใช้ในธุรกิจ

ใบเพิ่มหนี้ หรือ Debit Note นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องเผชิญกับความผันผวนต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้สำหรับการปรับปรุงหรือ การแก้ไขจำนวนเงินที่ค้างชำระจากลูกค้าหรือลูกหนี้ ใบเพิ่มหนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการปรับปรุงและแก้ไขข้อมูลทางการเงินที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การจัดการทางการเงินและการบัญชีของธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสด้วย

ใบเพิ่มหนี้ (Debit note) คืออะไร

ใบเพิ่มหนี้ (Debit Note) คือ เอกสารทางการค้าที่ใช้ในการแจ้งเพิ่มหนี้หรือจำนวนเงินที่ลูกค้าหรือลูกหนี้ต้องจ่ายให้กับบริษัทหรือธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วการออกใบเพิ่มหนี้จะถูกออกโดยบริษัทหรือธุรกิจที่ได้ให้บริการหรือส่งสินค้า และต้องการเพิ่มค่าใช้จ่ายหรือเงินเพิ่มเติมที่ไม่ได้ระบุไว้ในใบกำกับภาษีหรือใบแจ้งหนี้เดิม

ใบเพิ่มหนี้ (Debit note) ต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง

ใบเพิ่มหนี้ เป็นเอกสารที่สำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งจำเป็นต้องมีรายละเอียดครบถ้วนและชัดเจนเพื่อให้กระบวนการทางการเงินและบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรายละเอียดที่ควรปรากฏในใบเพิ่มหนี้จะประกอบด้วย

1. ชื่อ-ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการที่ออกใบเพิ่มหนี้

ในใบเพิ่มหนี้ (Debit Note) จำเป็นต้องมีรายละเอียดของผู้ประกอบการที่ออกใบนั้น ได้แก่ ชื่อ, ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร

ตัวอย่างใบเพิ่มหนี้ของผู้ประกอบการที่ออกใบเพิ่มหนี้

  • ชื่อผู้ประกอบการ : ชื่อเต็มของบริษัทหรือธุรกิจที่ออกใบเพิ่มหนี้ ชื่อนี้ควรตรงกับที่ใช้ในเอกสารทางการและการทำธุรกรรมทางการเงิน
  • ที่อยู่ผู้ประกอบการ : ที่อยู่ที่ถูกต้องและชัดเจนของบริษัทหรือธุรกิจ ซึ่งรวมถึงที่อยู่สำนักงานหลักหรือสถานที่ดำเนินการ
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร : เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (Tax Identification Number - TIN) ซึ่งเป็นเลขที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลทางภาษีของผู้ประกอบการ

2. ชื่อ-ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

ในใบเพิ่มหนี้ การระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการเป็นข้อมูลที่สำคัญและจำเป็น โดยรายละเอียดจะประกอบด้วย

ตัวอย่างใบเพิ่มหนี้ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

  • ชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ : ชื่อเต็มของบุคคลหรือบริษัทที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ชื่อนี้ควรตรงกับที่ใช้ในเอกสารทางการและการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารถูกจัดส่งถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกต้อง
  • ที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ : ที่อยู่ที่ถูกต้องและชัดเจนของผู้ซื้อหรือผู้รับบริการ รวมถึงที่อยู่สำนักงานหรือสถานที่ทำธุรกรรม ที่อยู่นี้มีความสำคัญในการติดต่อกลับหรือในกรณีที่เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับธุรกรรม

3. วัน เดือน ปี ในการออกใบเพิ่มหนี้

การระบุ วัน/เดือน/ปี ในการออกใบเพิ่มหนี้ จะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถติดตามและบันทึกธุรกรรมได้อย่างถูกต้อง รวมถึงให้ข้อมูลที่สำคัญสำหรับการจัดการบัญชีและการเงิน รายละเอียดวันที่ประกอบด้วย

  • วันที่ : วันที่เอกสารถูกสร้างหรือออก นี้ช่วยให้ทราบถึงวันที่แน่นอนที่ธุรกรรมได้เกิดการเปลี่ยนแปลง
  • เดือน : เดือนที่เอกสารถูกออก ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการจัดเรียงและบันทึกเอกสารตามลำดับเวลา
  • ปี : ปีที่เอกสารถูกออก สำคัญในการจัดการบัญชีและการเงินในแต่ละปีการเงิน

4. หมายเลขใบกำกับภาษีเดิม

การระบุหมายเลขใบกำกับภาษีเดิมในการออกใบเพิ่มหนี้ จะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเชื่อมโยงธุรกรรมเดิมที่เกี่ยวข้องกับใบเพิ่มหนี้นี้ได้ และลดความผิดพลาดในการจัดการข้อมูลและป้องกันการทำธุรกรรมซ้ำซ้อนซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับหมายเลขใบกำกับภาษีเดิมประกอบด้วย

  • หมายเลขใบกำกับภาษี : หมายเลขของใบแจ้งหนี้หรือใบกำกับภาษีที่เกี่ยวข้องกับการขายหรือการให้บริการที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้
  • วันที่ของใบกำกับภาษีเดิม : วันที่ที่ใบแจ้งหนี้หรือใบกำกับภาษีเดิมถูกออก ซึ่งช่วยให้ตรวจสอบและเชื่อมโยงธุรกรรมได้ง่ายขึ้น

5. คำอธิบายในการออกใบเพิ่มหนี้

ในใบเพิ่มหนี้ คำอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลในการออกเอกสารนี้เป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเข้าใจถึงสาเหตุ และรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธุรกรรม โดยรายละเอียดที่ควรรวมไว้ในคำอธิบายในการออกใบเพิ่มหนี้จะประกอบด้วย

ตัวอย่างใบเพิ่มหนี้ ในการเขียนคำอธิบายในการออกใบเพิ่มหนี้

  • เหตุผลของการออกใบเพิ่มหนี้ : ระบุเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมจึงต้องออกใบเพิ่มหนี้ เช่น ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้รวมอยู่ในใบแจ้งหนี้เดิม การเรียกเก็บเงินที่น้อยกว่าจำนวนที่ควรจะเป็น หรือข้อผิดพลาดในการออกใบแจ้งหนี้เดิม
  • รายละเอียดของการเปลี่ยนแปลง : อธิบายรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลง รวมถึงรายการสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น และเหตุผลที่เฉพาะเจาะจง
  • อ้างอิงถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง : หากมีใบแจ้งหนี้หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการออกใบเพิ่มหนี้ ควรระบุหมายเลขอ้างอิงเพื่อการตรวจสอบที่ง่ายขึ้น

เหตุผลในการออกใบเพิ่มหนี้

เหตุผลในการออกใบเพิ่มหนี้ มักเกี่ยวข้องกับการแก้ไขหรือปรับปรุงการเรียกเก็บเงินจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งรวมถึงการจัดการกับปัญหาหรือความเข้าใจผิดในการทำธุรกรรม เช่น

  • ข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงิน : หากใบแจ้งหนี้เดิมมีการเรียกเก็บเงินที่ไม่ถูกต้อง เช่น ราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรือการลืมรวมค่าใช้จ่ายบางอย่าง
  • การเปลี่ยนแปลงในคำสั่งซื้อหลังจากออกใบแจ้งหนี้ : เช่น การเพิ่มจำนวนสินค้าหรือบริการหลังจากที่ใบแจ้งหนี้เดิมถูกออกไปแล้ว
  • การปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายหลังการซื้อ : อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้รวมอยู่ในใบแจ้งหนี้เดิม เช่น ค่าขนส่งเพิ่มเติมหรือค่าบริการพิเศษ
  • การเรียกเก็บค่าปรับ : ในกรณีที่มีข้อตกลงทางสัญญาว่าจะมีการเรียกเก็บค่าปรับสำหรับสถานการณ์เฉพาะ เช่น การส่งมอบสินค้าล่าช้า

สรุป

ใบเพิ่มหนี้หรือ Debit Note เป็นเอกสารที่ใช้เพื่อแจ้งเพิ่มหนี้หรือจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเพิ่มเติม โดยปกติจะออกเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากการออกใบแจ้งหนี้เดิม ซึ่งการมีใบเพิ่มหนี้ที่ชัดเจนและถูกต้อง จะช่วยให้การจัดการทางการเงินและบัญชีทั้งผู้ขายและลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินที่อาจเกิดขึ้นได้

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่อง IFS ยินดีเป็นผู้ช่วยให้ทุกธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยบริการสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจเพื่อธุรกิจของคุณ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด เหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น SMEs หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน SMEs การันตีความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วยการเป็นผู้นำในธุรกิจแฟคเตอริ่งของประเทศไทย มายาวนานกว่า 30 ปี