Search
Close this search box.

ใบส่งของ/ใบส่งสินค้า เอกสารสำคัญที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก

ทำความรู้จักใบส่งของ/ใบส่งสินค้า มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การมีเอกสารที่เป็นมาตรฐานและชัดเจนสำหรับการทำธุรกรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น หนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขายและจัดส่งคือ ‘ใบส่งของ’ หรือ ‘ใบส่งสินค้า‘ ที่เป็นหลักฐานยืนยันการส่งมอบสินค้าจากผู้ขายหรือผู้จัดส่งไปยังผู้ซื้อ ซึ่งการมีของเอกสารนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการข้อมูลทางบัญชีและการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใบส่งของ/ใบส่งสินค้า คืออะไร

ใบส่งของ/ใบส่งสินค้า คืออะไร

ใบส่งสินค้า หรือใบส่งของ คือเอกสารสำคัญในกระบวนการขนส่งและจัดส่งสินค้า ซึ่งใช้เป็นหลักฐานยืนยันการส่งมอบสินค้าจากผู้ขายหรือผู้จัดส่งไปยังผู้ซื้อ รวมถึงช่วยในการตรวจสอบและจัดการคลังสินค้า ใช้เป็นข้อมูลในการจัดการบัญชี การเงิน และยังช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับการส่งสินค้า ทำให้การส่งมอบสินค้าเป็นไปอย่างมีระเบียบและชัดเจน ลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดในการส่งสินค้าได้

ใบส่งของ/ใบส่งสินค้า ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง

ใบส่งของ/ใบส่งสินค้า ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง

ใบส่งของหรือใบส่งสินค้า เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อให้การส่งมอบสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลที่ควรมีอยู่ในใบส่งของหรือใบส่งสินค้า จะประกอบด้วย

 

1. ชื่อ-ที่อยู่ของผู้ส่งมอบ

ชื่อ-ที่อยู่ของผู้ส่งมอบ ในใบส่งสินค้าหรือใบส่งของ คือส่วนที่ระบุข้อมูลของผู้ที่จัดส่งสินค้าออกไป ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นผู้ขายหรือผู้จัดจำหน่าย ข้อมูลนี้มีความสำคัญเพื่อให้ผู้รับสินค้าทราบถึงแหล่งที่มาของสินค้าและมีข้อมูลติดต่อกลับไปยังผู้ส่งมอบหากมีความจำเป็น

ตัวอย่างใบส่งของ และรายละเอียดของชื่อ-ที่อยู่ของผู้ส่งมอบ

  • ชื่อบริษัทหรือผู้ขาย : ชื่อที่ชัดเจนของบริษัทหรือผู้ขายที่ส่งสินค้า
  • ที่อยู่ : ที่อยู่ของสำนักงานหรือที่ทำการของผู้ขายซึ่งสามารถติดต่อได้
  • ข้อมูลติดต่ออื่น ๆ : เช่น เบอร์โทรศัพท์, แฟกซ์ และอีเมล ซึ่งช่วยให้ผู้รับสินค้าสามารถติดต่อผู้ส่งมอบได้ง่ายขึ้นในกรณีที่มีคำถามหรือปัญหาเกี่ยวกับการส่งสินค้า

2. ชื่อ-ที่อยู่ของผู้รับสินค้า

ชื่อ-ที่อยู่ของผู้รับสินค้า ในใบส่งของหรือใบส่งสินค้า เป็นข้อมูลที่ระบุถึงผู้รับสินค้า ซึ่งโดยปกติจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รับสินค้า ข้อมูลนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากช่วยให้กระบวนการจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างถูกต้องและถึงมือผู้รับอย่างแน่นอน

ตัวอย่างใบส่งของ และรายละเอียดของชื่อ-ที่อยู่ของผู้รับสินค้า

  • ชื่อของผู้รับสินค้า : ชื่อบุคคลหรือบริษัทที่จะรับสินค้า ควรเป็นชื่อที่ชัดเจนและเป็นทางการ
  • ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง : ที่อยู่อย่างละเอียดที่สินค้าจะถูกส่งไป เช่น หมู่บ้าน/อาคาร, ถนน, ตำบล/แขวง, อำเภอ/เขต, จังหวัด และรหัสไปรษณีย์ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะถูกส่งไปยังที่อยู่ที่ถูกต้องและชัดเจน
  • ข้อมูลติดต่ออื่น ๆ : เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลของผู้รับ ซึ่งจะช่วยในกรณีที่ต้องการติดต่อกับผู้รับสำหรับเรื่องการจัดส่งหรือแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม

3. รายละเอียดสินค้า

รายละเอียดสินค้า ในใบส่งของหรือใบส่งสินค้า เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ถูกส่งมอบ ซึ่งมีความสำคัญในการยืนยันว่าสินค้าที่ส่งถึงมือผู้รับเป็นสินค้าที่ถูกต้องตามที่ได้ทำการสั่งซื้อหรือตกลงกันไว้ 

ตัวอย่างใบส่งของ ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดสินค้า

  • รายการสินค้า : ชื่อหรือคำอธิบายของสินค้าที่ถูกส่ง ซึ่งควรเป็นรายละเอียดที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้รับสามารถตรวจสอบได้ง่าย
  • จำนวนสินค้า : ปริมาณหรือจำนวนของสินค้าที่ถูกส่ง ซึ่งอาจระบุเป็นจำนวนหน่วย กล่อง หรือตามหน่วยวัดอื่น ๆ
  • หมายเลขสินค้าหรือรหัสสินค้า : รหัสที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละรายการสินค้า ซึ่งช่วยในการตรวจสอบและจัดการคลังสินค้าได้ง่ายขึ้น
  • ราคาต่อหน่วย (ถ้ามี) : ราคาของสินค้าต่อหน่วย ซึ่งอาจจำเป็นในการบันทึกและตรวจสอบการเงิน
  • ข้อมูลเฉพาะของสินค้า (ถ้ามี) : เช่น ขนาด, สี, วัสดุที่ใช้ หรือลักษณะเฉพาะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น ๆ

4. วันที่จัดส่ง

วันที่จัดส่ง ในใบส่งของหรือใบส่งสินค้า เป็นข้อมูลที่บอกถึงวันที่ที่สินค้าถูกส่งออกจากผู้ขาย ซึ่งช่วยให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับสามารถยืนยันวันที่ที่สินค้าถูกจัดส่ง และผู้รับทราบถึงวันที่คาดว่าจะได้รับสินค้า ง่ายต่อเตรียมตัวและวางแผนการรับสินค้าได้อย่างเหมาะสม และหากมีปัญหาหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับการจัดส่ง วันที่จัดส่งที่ระบุไว้ในใบส่งของ สามารถใช้เป็นหลักฐานในการแก้ไขปัญหาได้

 

5. ลายเซ็นของผู้รับสินค้า

ลายเซ็นของผู้รับสินค้าใน ในใบส่งของหรือใบส่งสินค้า เป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการยืนยันการรับมอบสินค้า ซึ่งการลงลายเซ็นโดยปกติจะทำหลังจากที่ผู้รับได้ตรวจสอบสินค้าแล้วว่าตรงตามที่สั่งซื้อหรือตกลงกันไว้ ทั้งในเรื่องปริมาณและคุณภาพ 

 

ใบส่งของ ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล เหมือนกันไหม

 

ใบส่งของ ใบแจ้งหนี้ และใบวางบิล แม้ว่าทั้งสามอย่างนี้จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการซื้อขายและจัดส่งสินค้าในธุรกิจเหมือนกัน แต่จะมีลักษณะและหน้าที่ที่แตกต่างกันดังนี้

  • ใบส่งของ (Delivery Note) : ใบส่งของ คือเอกสารที่ใช้ในการยืนยันการส่งมอบสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ มักจะระบุรายการสินค้าที่ถูกส่ง รวมทั้งจำนวนและรายละเอียดอื่น ๆ 
  • ใบแจ้งหนี้ (Invoice) : เป็นเอกสารที่ใช้ในการเรียกเก็บเงิน ซึ่งระบุรายการสินค้าหรือบริการที่ได้จัดส่งพร้อมทั้งระบุราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน รวมถึงรายละเอียดทางการเงินที่ผู้ซื้อต้องชำระให้กับผู้ขาย
  • ใบวางบิล (Billing Note) : เป็นเอกสารที่สรุปการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ใช้สำหรับแสดงรายการธุรกรรมทั้งหมด รวมถึงยอดหนี้ที่ยังไม่ชำระ

สรุป

ใบส่งสินค้า หรือใบส่งของ เป็นเอกสารที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการขนส่งและจัดส่งสินค้า ซึ่งช่วยยืนยันการส่งมอบสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้รับ และใช้เป็นข้อมูลในการจัดการบัญชีและการเงิน ดังนั้นการเข้าใจและใช้ใบส่งของ อย่างถูกต้องจะช่วยให้การส่งมอบสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดได้

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่อง IFS ยินดีเป็นผู้ช่วยให้ทุกธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยบริการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อธุรกิจของคุณ ที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด สินเชื่อแฟคตอริ่งจาก IFS Capital จึงเป็นคำตอบของธุรกิจให้กับผู้ประกอบการทุกรายได้อย่างมั่นใจ การันตีความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วยการเป็นผู้นำในธุรกิจแฟคเตอริ่งของประเทศไทย มายาวนานกว่า 30 ปี

Share the Post:

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้งานคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า