การทำความรู้จักกับ Tax Invoice เป็นสิ่งสำคัญที่คนทำธุรกิจควรเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะมีผลต่อด้านภาษีและการบริหารเงินขององค์กร ซึ่ง Tax Invoice ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารที่ระบุรายการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ทำให้องค์กรมีสิทธิ์ถือหนี้ภาษีในฐานะเครดิตภาษี และป้องกันองค์กรจากความเสี่ยงทางกฎหมายภาษีและค่าปรับอีกด้วย
แล้วใบกำกับภาษี หรือ Tax Invoice คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไรในการทำธุรกิจ ? Tax Invoice มีกี่ประเภท ? ใครบ้างที่ต้องออก Tax Invoice ? ออกใบ invoice ได้เมื่อไร ? ในบทความนี้ IFS Capital ได้รวมเรื่อง Tax Invoice ที่คนทำธุรกิจควรรู้มาไว้ให้แล้ว
ใบกำกับภาษี Tax Invoice คืออะไร
ใบกำกับภาษี หรือ Tax Invoice คือ เอกสารการทำธุรกรรมทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการที่ได้มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจดทะเบียน VAT (Value added tax) จัดทำให้แก่ผู้ซื้อสินค้าทุกครั้งหลังจากที่มีการขายสินค้าและบริการเกิดขึ้น
ซึ่งรายละเอียดใน Tax Invoice จะประกอบด้วยข้อมูลที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการทำธุรกรรม เช่น ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ, รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ, ราคา, ปริมาณ และภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บเพิ่มจากผู้ซื้อในการขายสินค้า นอกจากนี้ Tax Invoice ยังเป็นหลักฐานสำหรับลูกค้าในการยืนยันการซื้อสินค้าหรือบริการและใช้ในการเรียกร้องสิทธิ์หรือการคืนสินค้าหากจำเป็น
Tax Invoice มีกี่ประเภท
Tax Invoice คือ เอกสารการทำธุรกรรมทางธุรกิจที่มีอยู่ด้วยกัน 7 ประเภท แต่ในบทความนี้จะพูดถึง 2 ประเภทหลัก คือ ใบกำกับภาษีอย่างย่อ และใบภาษีแบบเต็ม ซึ่งทั้งสองจะมีความแตกต่างกันดังนี้
1. ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ คือ เอกสารทางการเงินที่ใช้ในการแสดงรายการสินค้าบริการที่จำหน่าย หรือให้บริการแก่ลูกค้า พร้อมทั้งรายละเอียดของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการทำธุรกรรมระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ โดยใน Tax Invoice อย่างย่อมักจะประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ขาย : ระบุข้อมูลสำหรับติดต่อและติดตามการซื้อขาย
- วันที่ : ระบุวันที่ทำการขายหรือให้บริการ
- หมายเลขใบกำกับภาษี : เลขที่ระบุเป็นรหัสที่บ่งบอกถึงเอกสารนี้
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ : ระบุข้อมูลของลูกค้าที่ทำการซื้อ
- รายการสินค้าหรือบริการ : รายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่ถูกขาย
- จำนวนและราคาต่อหน่วย : แสดงปริมาณและราคาของสินค้าหรือบริการที่จะถูกบันทึก
- จำนวนเงินรวม : รวมจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องชำระ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) : ถ้ามีการคิดภาษีจะระบุจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง
2. ใบภาษีแบบเต็ม
ใบภาษีแบบเต็ม เป็นเอกสารทางการเงินที่ใช้ในการระบุรายละเอียดของการทำธุรกรรมการขายหรือการให้บริการที่มีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในกรณีธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงหรือมีความซับซ้อนมากกว่าปกติ ซึ่งจะมีการให้ข้อมูลที่ละเอียดครบถ้วน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางภาษีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยใน Tax Invoice แบบเต็มมักจะประกอบด้วยข้อมูลที่ละเอียดมากกว่าใบกำกับภาษีอย่างย่อ ดังนี้
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ : ระบุข้อมูลสำหรับติดต่อและติดตามการซื้อขาย
- วันที่ : ระบุวันที่ทำการขายหรือให้บริการ
- หมายเลขใบกำกับภาษี : เลขที่ระบุเป็นรหัสที่บ่งบอกถึงเอกสารนี้
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ : ระบุข้อมูลของลูกค้าที่ทำการซื้อ
- รายการสินค้าหรือบริการ : รายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่ถูกขาย รวมถึงรหัสสินค้า (ถ้ามี)
- จำนวนและราคาต่อหน่วย : แสดงถึงปริมาณและราคาของสินค้าหรือบริการที่จะถูกบันทึก
- จำนวนเงินรวม : รวมจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องชำระ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) : ระบุจำนวนเงินที่ถูกคิดภาษี
- จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น : รวมจำนวนเงินทั้งหมดที่รวมภาษี
- ระยะเวลาของการเคลื่อนไหว : ระบุระยะเวลาที่ทำการขาย
- เงื่อนไขการชำระเงิน : ระบุว่าลูกค้าต้องชำระเงินในระยะเวลาใด
- ข้อมูลภาษีบริษัท (Company Tax Information) : รายละเอียดเกี่ยวกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัท
- ลายเซ็น : ในบางกรณีใบภาษีอาจจะมีการลายเซ็นของผู้ขายหรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ
ใครบ้างที่ต้องออก Tax Invoice
การออก Tax Invoice คือกระบวนการที่กำหนดโดยกฎหมายภาษีและเป็นหน้าที่ของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในการทำธุรกรรมธุรกิจ โดยจะต้องดูที่รายได้ต่อปีเป็นหลัก ดังนั้นคนที่ต้องออก Tax Invoice จะเป็นบุคคลดังนี้
- ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ : ธุรกิจหรือบริษัทที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ลูกค้า หากประกอบกิจการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ในกรณีนี้ผู้ขายจะต้องออก Tax Invoice เพื่อเป็นหลักฐานในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้า
- ผู้ประกอบการหรือธุรกิจที่มีรายได้มาก : การออก Tax Invoice มักจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่มีรายได้มาก ซึ่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในปริมาณมาก นอกจากนี้กฎหมายภาษีอาจกำหนดข้อกำหนดเฉพาะสำหรับธุรกิจที่มีปริมาณการทำธุรกรรมสูง
- ผู้ประกอบการที่ได้รับการยกเว้นภาษี : บางธุรกิจอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ก็สามารถเลือกที่จะออก Tax Invoice เพื่อแสดงความโปร่งใสและสร้างความไว้วางใจในการทำธุรกรรม
- ผู้ประกอบการที่มีการส่งออกหรือนำเข้า : การทำธุรกรรมทางการค้าระหว่างประเทศมักต้องมีการออก Tax Invoice เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของการนำเข้าและส่งออกสินค้า
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการขายทรัพย์สิน : สำหรับกรณีที่มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขายทรัพย์สิน เช่น บ้านหรือที่ดิน ผู้ขายมักต้องออก Tax Invoice เพื่อบันทึกการทำธุรกรรมทางทรัพย์สิน
ออกใบ invoice ได้เมื่อไร
โดยปกติใบ Tax Invoice จะถูกออกเมื่อสินค้าหรือบริการถูกส่งมอบและต้องการให้ลูกค้าทราบค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ หรือขึ้นอยู่กับข้อตกลงทางธุรกิจที่ระบุวันที่ออกใบ Invoice ไว้
สรุปบทความ
ใบกำกับภาษี หรือ Tax Invoice คือ เอกสารการทำธุรกรรมทางธุรกิจ ดังนั้นการทำความเข้าใจใบกำกับภาษีหรือ Tax Invoice จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะไม่เพียงเป็นเอกสารทางการเงินและภาษีที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการควบคุมและบันทึกข้อมูลทางการเงินที่สำคัญในการช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จในการบริหารการเงินด้วย
หากคุณต้องการให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น IFS ยินดีเป็นผู้ช่วยให้ทุกธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยบริการสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขายใบแจ้งหนี้ ให้เป็นเงินกู้หมุนเวียนเพื่อธุรกิจของคุณ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน SMEs การันตีความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วยการเป็นผู้นำในธุรกิจแฟคเตอริ่งของประเทศไทย มายาวนานกว่า 30 ปี