ในบางครั้ง ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องลงทุนซื้อเครื่องจักร หรือยานพาหนะต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต หรือให้บริการ ทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตมากขึ้น แต่การซื้อทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรหรือยานพาหนะนั้น มักต้องใช้เงินทุนที่ค่อนข้างสูง ถ้าหากไม่วางแผนจัดการให้ดีก็อาจทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องได้
“สินเชื่อเช่าซื้อ” และ “สินเชื่อลีสซิ่ง” จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกใช้กัน เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถสั่งซื้อเครื่องจักร หรือยานพาหนะมาใช้ในการทำธุรกิจได้โดยที่ยังรักษากระแสเงินสดของบริษัทได้ดีอยู่ แล้วสินเชื่อเช่าซื้อกับลีสซิ่งต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี บทความนี้มีคำตอบ
สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) คืออะไร
สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) คือ การขอสินเชื่อเช่าซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ยานพาหนะ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง หรือรถใช้งานเกษตรกรรม โดยทางผู้ให้สินเชื่อจะทำการจัดซื้อทรัพย์สินจากผู้จัดจำหน่ายตามที่ผู้เช่าซื้อต้องการ
ผู้ให้เช่าซื้อจะถือกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินไว้อยู่ แต่ผู้เช่าซื้อสามารถครอบครองและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้ตามต้องการ โดยจะมีหน้าที่ซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินที่เช่าซื้อ และจะต้องชำระค่าเช่าซื้อตามเงื่อนไขของสัญญา ค่าเบี้ยประกันภัย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเช่าซื้อ โดยเมื่อชำระค่าเช่าซื้อจนครบสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้เช่าซื้ออัตโนมัติ
สินเชื่อลีสซิ่ง (Leasing) คืออะไร
สินเชื่อลีสซิ่ง (Leasing) คือ การขอสินเชื่อเพื่อเช่าทรัพย์สินต่าง ๆ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ยานพาหนะ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง หรือรถใช้งานเกษตรกรรม โดยทางผู้ให้สินเชื่อจะทำการจัดซื้อทรัพย์สินจากผู้จัดจำหน่ายตามที่ผู้เช่าซื้อต้องการ
ผู้ขอสินเชื่อลีสซิ่งจะสามารถครอบครองและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้ โดยจะมีหน้าที่ซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินที่เช่า และชำระค่าเช่าตามเงื่อนไขของสัญญา แต่จะมีความแตกต่างจากสินเชื่อเช่าซื้อตรงที่หลังจากชำระครบตามสัญญาแล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะยังเป็นของบริษัทผู้ให้เช่าซื้ออยู่ แต่ผู้ขอสินเชื่อลีสซิ่งมีสิทธิที่จะคืนทรัพย์สิน เช่าต่อ หรือซื้อทรัพย์สินที่เช่าในราคาที่ตกลงกัน ณ วันทำสัญญา
เปรียบเทียบสินเชื่อเช่าซื้อกับลีสซิ่งต่างกันอย่างไร
เพื่อให้คุณเห็นภาพความแตกต่างระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อกับสินเชื่อลีสซิ่งอย่างชัดเจน สามารถเลือกได้ว่าธุรกิจของตนเหมาะกับการขอสินเชื่อแบบใด เราจะพาไปเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อกับสินเชื่อลีสซิ่งโดยแบ่งย่อยเป็นข้อ ๆ ไปดูกันเลย!
1. กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์
- สินเชื่อเช่าซื้อ : สินทรัพย์จะเป็นของบริษัทผู้เช่าซื้อตั้งแต่ต้น แม้ว่าจะยังไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก็ตาม
- สินเชื่อลีสซิ่ง : สินทรัพย์จะยังไม่ถือเป็นของบริษัทผู้เช่า เมื่อครบสัญญาเช่า ผู้เช่าจะต้องเลือกว่าจะซื้อสินทรัพย์ เช่าต่อ หรือคืนสินทรัพย์ให้กับบริษัทผู้ให้เช่า
2. การบันทึกค่าใช้จ่าย
- สินเชื่อเช่าซื้อ : ผู้เช่าซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ค่าเสื่อมราคาต่อปี ค่าดอกเบี้ย หรือค่าประกันภัย
- สินเชื่อลีสซิ่ง : ผู้เช่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ในสัญญาเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแค่ค่าเช่ารายเดือน
3. การนำไปลดหย่อนภาษี
- สินเชื่อเช่าซื้อ : สามารถนำค่าเสื่อมราคาต่อปีและค่าดอกเบี้ยไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่จะต้องไม่เกินราคาที่จะต้องผ่อนชำระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ๆ
- สินเชื่อลีสซิ่ง : สามารถนำค่าเช่ารายเดือนทั้งหมด 100% ไปลดหย่อนภาษีได้
4. เหมาะกับสินทรัพย์แบบไหน
- สินเชื่อเช่าซื้อ : เหมาะกับธุรกิจ SME ที่ต้องการเงินลงทุนไปซื้อเครื่องจักร หรือยานพาหนะเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ และเพิ่มสินทรัพย์ในกิจการ โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมากในครั้งเดียว
- สินเชื่อลีสซิ่ง : เหมาะกับกิจการที่เปิดมาสักระยะและเริ่มมีกำไรแล้วแต่ต้องการลีสซิ่งเพื่อมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการ เพื่อผลประโยชน์ทางภาษี
5. ระยะเวลาของสัญญา
- สินเชื่อเช่าซื้อ : โดยทั่วไป จะกำหนดระยะเวลาการเช่าซื้ออยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี
- สินเชื่อลีสซิ่ง : โดยทั่วไป จะกำหนดระยะเวลาการเช่าอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี
IFS Capital ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อลีสซิ่งเพื่อธุรกิจ
IFS Capital พร้อมให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อลีสซิ่งเพื่อธุรกิจ SME อนุมัติไว สมัครง่าย ใช้เครื่องจักรที่ใช้ในการขอวงเงินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
หากคุณเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังมองหาเงินลงทุนในการซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยานพาหนะ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั้งเล็กและใหญ่ รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ให้สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อลีสซิ่งของ IFS Capital เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถกรอกฟอร์มสมัครสินเชื่อเช่าซื้อหรือสินเชื่อลีสซิ่งได้เลยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมให้คำแนะนำข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด และดูแลอย่างใกล้ชิด รับรองได้เลยว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน!
สรุปเรื่องความแตกต่างระหว่างเช่าซื้อและลีสซิ่ง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อลีสซิ่งที่ IFS Capital นำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการคลายข้อสงสัยว่าสินเชื่อเช่าซื้อกับลีสซิ่งต่างกันอย่างไร และสามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิต พัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโต และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางแผนไว้