ภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิต กำลังซื้อของผู้บริโภค และการบริหารจัดการของภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและหากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็พบว่ามีบางธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากสภาวะเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมและวิเคราะห์ให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อ สาเหตุของภาวะเงินเฟ้อ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และกลุ่มธุรกิจที่ได้และเสียประโยชน์
ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร
ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) หมายถึงภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อำนาจซื้อหรือกำลังซื้อของเงินตราลดลง ผู้ประกอบการต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าเดิม เช่น เมื่อก่อนมีเงิน 100 บาท สามารถซื้อวัตถุดิบได้ 20 ชิ้น ปัจจุบันอาจจะซื้อได้เพียงแค่ 5 ชิ้น เป็นต้น
สาเหตุภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อมีหลายปัจจัย ดังนี้
- อุปสงค์มากกว่าอุปทาน (Demand-Pull Inflation) เกิดจากความต้องการสินค้าและบริการมากเกินกว่าระดับการผลิตหรืออุปทานในตลาด ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น
- ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น (Cost-Push Inflation) เช่น ราคาวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
- ราคาน้ำมันและพลังงานสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามมา
- Printing Money Inflation หรือสั่งพิมพ์เงินเพิ่มมากเกินความต้องการ
- ปัจจัยภายนอก เช่น สงคราม ภัยธรรมชาติ ทำให้อุปทานของสินค้าลดลง ราคาสินค้าจึงปรับตัวสูงขึ้น
ภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างไร
ภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในหลายด้าน ทั้งด้านการผลิต การบริโภค การลงทุน เงินทุน และการค้าระหว่างประเทศ ดังนี้
- ภาคการผลิต ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรของภาคธุรกิจลดลง บางธุรกิจอาจต้องปิดกิจการไป
- ภาคการบริโภค กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงเนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการลดลง ยอดขายในตลาดลดลง
- ภาคการลงทุน เงินเฟ้ออาจทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนลดลง นักลงทุนอาจถอนเงินทุนออกจากระบบ ส่งผลต่อการลงทุนภาคเอกชนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- การเงินและอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ค่าเงินอาจแข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนสินเชื่อและการส่งออกของประเทศ
- การค้าระหว่างประเทศ สินค้าที่ผลิตในประเทศมีราคาสูงขึ้น อาจทำให้สินค้าส่งออกแข่งขันในตลาดโลกได้ยาก ขณะที่สินค้านำเข้าอาจมีราคาสูงขึ้นตามมาด้วย
เงินเฟ้อใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์บ้าง
เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้น ผลกระทบที่ตามมาทำให้บางกลุ่มหรือบางธุรกิจได้รับประโยชน์ แต่หลายกลุ่มก็ต้องเสียประโยชน์ ดังนี้
ประเภทธุรกิจที่ได้ประโยชน์
- ธุรกิจเกี่ยวกับทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ เช่น อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน บริษัทพัฒนาที่ดิน เนื่องจากราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์มักจะปรับตัวสูงขึ้นในสภาวะเงินเฟ้อ
- ธุรกิจเหมืองแร่และพลังงาน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์มักจะสูงขึ้นในช่วงเงินเฟ้อ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจที่สามารถปรับราคาสินค้าหรือบริการได้อย่างรวดเร็วตามเงินเฟ้อ เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการบางประเภท
- ธุรกิจที่มีหนี้สินคงที่และรายได้เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ เนื่องจากภาระหนี้สินมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมาก่อนหน้าช่วงเงินเฟ้อ เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านั้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ประเภทธุรกิจที่เสียประโยชน์
- ธุรกิจที่มีต้นทุนค่าแรงงานสูง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เนื่องจากค่าแรงงานมักจะปรับตัวสูงขึ้นในสภาวะเงินเฟ้อ
- ธุรกิจที่ไม่สามารถปรับราคาสินค้าหรือบริการได้ทันท่วงทีตามเงินเฟ้อ
- ธุรกิจที่มีหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรือหนี้สินระยะสั้นจำนวนมาก ต้องแบกรับต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามการควบคุมเงินเฟ้อ
- ธุรกิจขนาดเล็กที่มีกำลังในการปรับตัวน้อย อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนต้องปิดกิจการไป
- ธุรกิจที่มีต้นทุนพลังงานและการขนส่งสูงในสัดส่วนค่อนข้างมากของต้นทุนการผลิต
ประเภทธุรกิจที่เท่าทุน ไม่ได้และไม่เสีย
- ธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีต้นทุนคงที่ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เนื่องจากไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธุรกิจบริการพื้นฐานหรือสาธารณูปโภค
- ธุรกิจที่มีรายได้และต้นทุนปรับตัวขึ้นลงตามเงินเฟ้ออย่างสมดุล เช่น ธุรกิจด้านเทคโนโลยีบางประเภท
ภาวะเงินเฟ้อส่งผลต่อ SME อย่างไร
ภาวะเงินเฟ้อย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ SME หรือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย เนื่องจากธุรกิจ SME มักมีขนาดเล็ก มีกำลังทรัพย์และเงินทุนหมุนเวียนจำกัด จึงมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่
ผลกระทบสำคัญของภาวะเงินเฟ้อต่อ SME ได้แก่
- ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
- กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้ยอดขายและรายได้ของ SME ลดลง
- ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นตามมาตรการควบคุมเงินเฟ้อ
- หากไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าหรือบริการได้ทันท่วงทีตามเงินเฟ้อ จะส่งผลให้อัตรากำไรลดลง
ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ SME บางรายประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ต้องชะลอการลงทุนเพื่อขยายกิจการ หรือในบางกรณีอาจต้องปิดกิจการไปในที่สุด
เจ้าของธุรกิจ SME ควรรับมืออย่างไร
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เงินเฟ้อที่ท้าทาย เจ้าของธุรกิจ SME ควรมีกลยุทธ์และวิธีการรับมือดังนี้
- ควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หาแหล่งวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าเดิม
- ปรับราคาสินค้าหรือบริการให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ราคาสูงจนเสียลูกค้าไป
- หากลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ เช่น การจัดรายการส่งเสริมการขาย การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย
- เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ วงเงินสินเชื่อ หรือขอพักชำระหนี้เป็นการชั่วคราว
- พิจารณาแหล่งเงินทุนหมุนเวียนจากแหล่งอื่น เช่น นักลงทุน ตลาดทุน เป็นต้น
- ควบคุมสภาพคล่องทางการเงินและกระแสเงินสดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง
- ขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ หรือพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อมากนัก
การรับมือจากผู้ประกอบการ SME ต้องอาศัยความยืดหยุ่น ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และบริหารจัดการอย่างระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจผันผวน เพื่อนำธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตเงินเฟ้อนี้ไปได้
สรุปบทความ
ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อระบบเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ควบคู่ไปกับยอดขายที่ลดลงจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง การควบคุมต้นทุน ปรับราคาขายที่เหมาะสม หาแหล่งรายได้ใหม่ ควบคุมสภาพคล่อง และแสวงหาเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ล้วนเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตเงินเฟ้อนี้
หากคุณกำลังมองหาเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ IFS Capital มีบริการสินเชื่อแฟคตอริ่ง เพื่อธุรกิจ SME เปลี่ยนบิลธุรกิจเป็นเงินทุน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นสินเชื่อ SME ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน การันตีความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วยการเป็นผู้นำในธุรกิจแฟคเตอริ่งของประเทศไทย มายาวนานกว่า 30 ปี