EP2 แฟคเตอริ่ง “ยุคกลาง” | IFS Capital (Thailand)
27 ต.ค. 2565
ความรู้ธุรกิจ

EP2 แฟคเตอริ่ง “ยุคกลาง”

แม้ว่าจักรวรรดิโรมันจะล่มสลายไปกว่าพันปี หลักการของแฟคเตอริ่งยุคเริ่มแรกยังมีการพัฒนาต่อไป กลุ่มการค้าที่ใช้หลักการแฟคเตอริ่งกลุ่มแรกๆ ปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 13 และ 14 ไม่ว่าจะเป็น แบล็คเวลล์ ฮอลล์ (Blackwell Hall / Bakewell hall) ศูนย์กลางการค้าผ้าและผ้าขนสัตว์ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งผู้ผลิตผ้าและช่างตัดเย็บเสื้อผ้าจากทั่วอังกฤษ จะนำสินค้าของตนมาจัดแสดงและขายให้กับกลุ่มพ่อค้า ได้ใช้หลักการแฟคเตอริ่งเป็นบริการด้านการค้า โดยกลุ่มผู้ขายมีตัวแทนทางการค้า ในการดำเนินการเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้หลังจากตกลงเงื่อนไขการค้าและรับสินค้าแล้ว

ในประเทศฝรั่งเศส ปรากฏหลักฐานว่า Jacques Couer ผู้ดูแลการคลังของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 7 (King Charles VII) เป็นผู้นำในการส่งผู้ทำหน้าที่ตัวแทนการค้ากว่า 300 คนไปสู่ดินแดนห่างไกล

ในตวรรษที่ 16 ยุคการล่าอาณานิคมของยุโรป มีการพัฒนาระบบการเงินอย่างรวดเร็ว กลุ่ม ขุนนาง พ่อค้า ผู้ส่งออกสินค้า มักใช้ตัวแทนการค้า (factor) ในการบริหารธุรกิจแทน เช่น ทำสัญญาการค้า การรวบรวมและการเก็บเงินจากลูกหนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตน

ปลายศตวรรษที่ 18 ยุคที่อเมริกาเป็นอาณานิคม การพัฒนาด้านต่างๆ ของทวีปอเมริกาเหนือ จำเป็นต้องพึ่งเงินทุน องค์ความรู้ และสินค้าจากยุโรป ซึ่งยุคนั้นพ่อค้าชาวยุโรปยังทำการค้าสไตล์ดั้งเดิมคือระบบ "เพื่อนและญาติ" คือการส่งบุตรหลานหรือญาติเพื่อเป็นตัวแทนในการทำธุรกิจทึ่อเมริกา ต่อมากิจการค้าขายได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวแทนการค้าจึงเปลี่ยนเป็นมืออาชีพที่มีความสามารถในการบริหารจัดการสินค้าจำนวนมากจากหลากหลายธุรกิจ

ตัวแทนการค้า (Factors) ยุคแรก รวมการให้บริการอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยน การธนาคาร การบัญชีและการขนส่งสินค้าจากอเมริกาไปสู่ยุโรป เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยบริษัทตัวแทนจะตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์ค และแหล่งเงินทุนในการทำธุรกิจมาจากนายทุนในอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และประเทศอื่นๆในยุโรปที่มีฐานะร่ำรวย โดยตัวแทนทางการค้าเหล่านี้จะดูแลการซื้อขายและขนส่งยาสูบ ฝ้าย และคราม ไปยังเมืองท่าทางการค้าในยุโรป ซึ่งตัวแทนทางการค้าต้องยอมรับความเสี่ยงที่สูง เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในขณะที่เกษตรกรจะได้รับค่าตอบแทนของผลผลิตที่ถูกหักเปอร์เซ็นต์ไป เพื่อแลกกับความสะดวกในการที่ไม่ต้องเสียเวลารอการจ่ายเงินของผู้ซื้อจากแดนไกล

ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ตัวแทนการค้ามีบทบาทเด่นในการทำธุรกิจค้าฝ้ายระหว่างเกษตรกรทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาไปยังนิวยอร์กและส่งออกไปยุโรปจำนวนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิต ระยะเวลาที่ยาวนานในขนส่งและการเก็บสินค้าในคลัง ส่งผลให้กระบวนการจ่ายเงินเป็นไปอย่างล่าช้า เกษตรกรจึงยินดีรับเงินล่วงหน้าจากตัวแทนการค้าที่ได้ทำสัญญากันไว้ โดยกลุ่มที่ดูแลเรื่องการค้าฝ้ายโดยเฉพาะมีชื่อเรียกว่า "Cotton Factors"

ในตอนหน้าเราจะพาทุกท่าน ไปรู้จักแฟคเตอริ่งในยุคใหม่ ที่มีการใช้แพร่หลายไปยังทวีปต่างๆ ไปจนถึงการพัฒนาสู่แฟคตอริ่งยุคปัจจุบัน