Invoice Factoring “ทางเลือกที่ตอบโจทย์ธุรกิจ หากผู้ประกอบการต้องการกระแสเงินสดเพิ่มในกิจการ"
การเพิ่มกระแสเงินสดในธุรกิจเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการรับเงินล่วงหน้าเพื่อสนับสนุนธุรกิจ แฟคเตอริ่ง (Invoice Factoring) หรือที่ผู้ประกอบการมักเรียกกันว่า "ขายบิล" อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจท่าน
Q&A คลายข้อสงสัย รวมคำถาม Invoice Factoring เปลี่ยนบิลเป็นเงินทุนได้อย่างไร?
Q: Invoice Factoring คืออะไร?
A: สินเชื่อระยะสั้นในรูปแบบการซื้อขายลูกหนี้การค้าโดยบริษัทแฟคเตอร์ (Factor) เป็นผู้ให้บริการรับซื้อลูกหนี้การค้า โดยใช้เอกสารการค้า เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ หรือใบวางบิล เป็นต้น เมื่อนำส่งเอกสารการค้าให้แฟคเตอร์ ท่านจะได้รับเงินล่วงหน้าให้ตามตกลง เมื่อครบกำหนดชำระแฟคเตอร์จะเป็นตัวแทนเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าแทนท่าน เมื่อได้รับชำระเงินจากลูกหนี้แล้ว แฟคเตอร์จะหักค่าเงินรับล่วงหน้าและค่าใช้จ่ายต่างๆ ก่อนจะชำระคืนเงินคงเหลือให้แก่ท่าน
Q: มีขั้นตอนการใช้บริการอย่างไร?
A: ผู้ประกอบการควรเลือกบริษัทแฟคเตอร์ ผู้ให้บริการที่เสนอเงื่อนไขและข้อตกลงที่เหมาะสมกับธุรกิจของท่าน โดยทำความเข้าใจขั้นตอนการใช้บริการ Invoice Factoring ได้ใน 5 ขั้นตอนดังนี้
- นำส่งสินค้าหรือบริการและแจ้งวางบิลแก่คู่ค้าแล้ว
- ส่งเอกสารการค้าที่วางบิลแล้วให้แฟคเตอร์เพื่อดำเนินการ
- แฟคเตอร์จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ตามตกลงราว 80-90% ของมูลค่าบิล
- เมื่อครบกำหนดชำระเงิน แฟคเตอร์จะเรียกเก็บเงินค่าสินค้าหรือบริการตามเอกสาร โดยตรงจากลูกหนี้การค้าแทนท่าน
- เมื่อได้รับชำระเงินจากลูกหนี้การค้าแล้ว แฟคเตอร์จะหักเงินที่ได้รับล่วงหน้าและค่าใช้จ่ายต่างๆ ก่อนจ่ายเงินคงเหลือให้แก่ท่าน
Q : Invoice Factoring เหมาะกับธุรกิจใด?
A : Invoice Factoring เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการค้าขายหรือให้บริการ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต ขนส่ง นำเข้า ส่งออก นอกจากนี้ยังเหมาะกับ SMEs หรือ Start Up ที่ต้องการกระแสเงินสดเพื่อสนับสนุนการเติบโตและขยายธุรกิจ แต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- ธุรกิจที่ให้เครดิตเทอมกับคู่ค้า
- ต้องการกระแสเงินสด แต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายธุรกิจ
- มีลูกหนี้การค้าแข็งแรง
- ใช้เอกสารการค้าในการทำธุรกรรม
Q : คิดดอกเบี้ยอย่างไร?
A : อัตราดอกเบี้ยในการใช้บริการ Invoice Factoring นั้นมักจะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ปกติแล้วจะอ้างอิงสถาบันการเงิน (MLR,MOR, MRR) อัตราดอกเบี้ยในการใช้บริการราว 0.5 - 3% ต่อเดือน(โดยประมาณ)* ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการอนุมัติและข้อตกลงระหว่างแฟคเตอร์และผู้ใช้บริการ
Q: จะได้รับเงินตอนไหน?
A : ท่านจะได้รับเงินค่าสินค้าและบริการหลังจากส่งเอกสารแล้ว โดยแบ่งเป็นสองส่วน
- 1.เมื่อเอกสารการค้าของท่านได้รับการตรวจสอบและยืนยันเรียบร้อยแล้ว แฟคเตอร์จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ท่านราว 80-90% ของมูลค่าบิล ภายใน 1-3 วันทำการ ตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแฟคเตอร์นั้นๆ ที่เลือกใช้บริการ
- 2.เมื่อลูกหนี้การค้าชำระเงินแล้ว แฟคเตอร์จะหักเงินที่ได้รับล่วงหน้าและหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ดอกเบี้ย, ค่าธรรมเนียม เป็นต้น ก่อนจ่ายเงินคงเหลือให้แก่ท่าน ภายใน 1-3 วันทำการ ตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแฟคเตอร์นั้นๆ ที่เลือกใช้บริการ
Q : ค่าใช้จ่ายสำหรับใช้บริการ Invoice Factoring มีอะไรบ้าง?
A : ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ Invoice Factoring ประกอบไปด้วย:
- ดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสถาบันการเงิน (MLR,MOR, MRR)
- ค่าธรรมเนียมการเปิดวงเงิน: ค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชีแรกเข้า(ชำระครั้งเดียว)
- ค่าธรรมเนียมแฟคเตอริ่ง: ค่าใช้จ่ายเมื่อนำบิลมาขาย
Q : ข้อดีและข้อที่ควรเข้าใจ Invoice Factoring คืออะไร?
A : ข้อดีของ Invoice Factoring
- สามารถเพิ่มกระแสเงินสดในธุรกิจ โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดชำระจากลูกหนี้การค้า
- ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการขอสินเชื่อ
- วางแผนการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจ
- ผู้ให้บริการสามารถเพิ่มวงเงินได้ตามยอดขายของธุรกิจท่าน
ข้อที่ควรเข้าใจ
- อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อตกลงกับผู้ให้บริการ
- การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ พิจารณาจากผู้ขอสินเชื่อและลูกหนี้การค้า ตามเกณฑ์ของแฟคเตอร์ผู้ให้บริการกำหนด
เราหวังว่าคำถามเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจเกี่ยวกับ Invoice Factoring มากขึ้น หากท่านมีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาฟรีได้ที่ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (IFS Capital) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟคเตอริ่งในประเทศไทย พร้อมให้บริการท่านด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี